ข้าพเจ้าค้นหาตำบลที่อยู่ในอ.สันกำแพงในwikiแต่ไม่มีข้อมูลว่าสันกำแพงประกอบด้วยตำบลอะไรบ้าง เว็บของอำเภอข้างบนก็บอกแต่เพียงว่ามีกี่ตำบลแต่ไม่บอกรายละเีอียดชื่อของแต่ละตำบลข้าพเจ้าค้นหาสักพักจึงพบในเว็บไซต์หนึ่งชื่อเว็บตำบลดอทคอม ซึ่งมีข้อมูลละเอียดมากกว่าทั้งยังมีข้อมูลทั้งหมดคือรายละเอียดของหมู่บ้านด้วย จึงขอบคุณมาณ ณ ที่นี้ด้วย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อำเภอสันกำแพง |
|
ทิวทัศน์ขึ้นชื่อ เลื่องลือคนงาม
เขตคามโคนม ชื่นชมหัตถกรรม |
ข้อมูลทั่วไป |
|
|
อำเภอสันกำแพง เป็นอำเภอหนึ่งของ
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่ขึ้นชื่อได้แก่
บ้านบ่อสร้าง เป็นแหล่งรวมหัตถกรรมการทำ
ร่มกระดาษสา น้ำพุร้อนสันกำแพง ตลอดเส้นทางจากตัว
อำเภอเมืองไป ยังอำเภอสันกำแพงจะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง นอกจากจะเป็นอำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายแล้ว อำเภอสันกำแพงยังเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของ
ประเทศไทย ทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย
ประวัติ
จากหลักฐานศิลาจารึกที่ต้นพบ ณ วัดเชียงแสน ตำบลออนใต้ สันนิษฐานกันว่าชาวอำเภอสันกำแพงอพยพมาจากพันนาภูเลาแขวง
เมืองเชียงแสน (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเชียงราย) มาตั้งอยู่ริมน้ำแม่ออน โดยในสมัยพระเจ้าศิริลัทธัมมังกร มหาจักพรรดิราชธิราช ได้เสวยราชเป็นกษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ ได้โปรดให้ราชมนตรีนายหนึ่งชื่อ เจ้าอภิชวฌาณบวรสิทธิ เป็นหมื่นดาบเรือนได้มีจิตศรัทธาชักชวนบรรดาทายกทายิกาทั้งหลายมาประชุมกัน เพื่อสร้างวิหารพระเจดีย์และหอพระไตรปิฎก เมื่อสร้างเสร็จแล้วขนานนามวัดที่สร้างขึ้นว่า "สาลกิจญาณหันตาราม" วัดนี้ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า "วัดเชียงแสน" นอกจากนั้น ชาวบ้านในหลายท้องถิ่นของอำเภอเป็น
ไทยยองและ
ไทยลื้อ สำเนียงพูดของชาวบ้านในอำเภอเชียงแสน ต่อมาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเรียกว่า "แขวงแม่ออน" อยู่ในการปกครองของนครเชียงใหม่ ถึง
พ.ศ. 2445 ในรัชสมัยของ
พระเจ้าอินทวโรรสครองนครเชียงใหม่เกิดกบฏเงี้ยวขึ้นที่
อำเภอเมืองแพร่ ที่แขวงแม่ออนมีชาวเงี้ยว 11 คน มีอาวุธครบได้ทำการบุกปล้นโรงกลั่นสุราที่บ้านป่าไผ่ ตำบลแช่ช้าง แล้วทำการเผาที่ทำการแม่ออนเสียหายทั้งหลัง แล้วได้หนีไปทาง
อำเภอดอยสะเก็ด ต่อมาในปี
พ.ศ. 2446 ทางราชการได้ย้ายที่ทำการแขวงแม่ออนมาปลูกสร้างที่บ้านสันกำแพง จึงได้ชื่อว่า "อำเภอสันกำแพง" มาจนถึงทุกวันนี้ ในปี พ.ศ. 2537 กระทรวงมหาดไทยได้แบ่งพื้นที่บางส่วนของอำเภอสันกำแพงยกฐานะเป็น "
กิ่งอำเภอแม่ออน"
ภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มกว้าง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 196.69 ตารางกิโลเมตร มีลำน้ำที่สำคัญ ลำน้ำแม่ออน ลำน้ำแม่ปูคา ลำน้ำแม่กวง เป็นแหล่งน้ำสำคัญ
ประชากร
จำนวนประชากรทั้งหมด 73,269 คน แยกได้เป็นชาย 35,394 คน หญิง 37,875 คน
การคมนาคม
เส้นทางคมนาคม อำเภอสันกำแพงติดต่อกับจังหวัดเชียงใหม่โดยทางรถยนต์ถนนสายเชียงใหม่ - สันกำแพง ระยะทาง 13 กม.
ผลผลิตทางการเกษตร
ได้แก่ ข้าว ยาสูบ ถั่วลิสง ลำไย ไม้ดอก กระเทียม
การประมง
ได้แก่ การเลี้ยงปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียน ปลายี่สก
ประเพณี
- ประเพณีสงกรานต์
- ประเพณีสงกรานต์ในอำเภอสันกำแพง วันที่ 13 เมษายน ถือว่าเป็นวันสงกรานต์ชาวล้านนาเรียกว่า เป็นวันสังขารล่อง วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า วันเนาว์ ชาวล้านนาเรียกเพี้ยนเป็น "วันเนา" วันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศก เรียกว่า "วันพญาวัน" ซึ่งถือว่าเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชเป็นปีใหม่และเปลี่ยนพุทธศักราชด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการทำบุญ สรงน้ำพระ และการรดน้ำดำหัว เช่นเดียวกัน
- ประเพณีการกิ๋นก๋วยสลากหรือทานข้าวสลาก
- เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานแล้ว การทานสลากจะเริ่มในราววันเพ็ญเดือนสิบสอง และสิ้นสุดเอาในเดือนเกี๋ยงดับ ก่อนวันทำพิธีทานสลากภัตต์ 1 วัน เรียกว่า "วันดา" คือเป็นวันจัดเตรียมสิ่งของเครื่องไทยทาน พวกผู้ชายจะจักตอกสานก๋วย (ตระกร้า) ไว้หลาย ๆ ใบ แล้วแต่ศรัทธาและทรัพย์จะอำนวยให้ทางฝ่ายผู้หญิงก็จะจัดเตรียมห่อของกระจุก กระจิก เช่น ข้าวสาร กระเทียม เกลือ กะปิ ขนม อาหาร (ห่อนึ่ง) ชิ้นปิ้ง (เนื้อย่าง) เนื้อเค็ม หมาก ไม้ขีดไฟ เทียนไข สีย้อมผ้า ผลไม้ เครื่องใช้สอยต่าย ๆ ตามแต่ศรัทธาและฐานะ เหล่านี้บรรจุลงในก๋วย ซึ่งกรุด้วยใบตองหรือกระดาษสีต่าง ๆ เมื่อบรรจุเรียบร้อย "ยอด" คือธนบัตรผูกติดไม้เรียวยอดนี้ไม่จำกัดจำนวน วันรุ่งขึ้นเป็นวันทานสลาก ก็จะให้เด็กนำ "ก๋วยสลาก" ไปวางเรียงไว้เป็นแถว ๆ เวลามีการ "เส้นสลาก" (ส้นสลากทำด้วยใบลานหรือกระดาษตัดแผ่นยาว ๆ จารึกชื่อเจ้าของไว้และ บอกว่าอุทิศส่วนกุศลให้ใครบ้าง เส้นสลากนี้จะต้องเขียนให้ครบจำนวนก๋วยสลาก เมื่อชาวบ้านจะนำเอาก๋วยสลากไปที่วัด นำเอาเส้นสลากไปรวมกันที่หน้าพระประธานในวิหาร ผู้รวบรวมเส้นสลากมักจะเป็นมรรคนายกรวบรวมได้เท่าไรเอาจำนวนพระภิกษุสามาเณร ที่นิมนตร์จากหัววัดต่าง ๆ หารจำนวนเส้นสลากเหลือไว้ส่วนเป็นของพระเจ้ามาแบ่งให้แก่พระภิกษุสามเณร และเด็ก "เส้นสลาก" ที่แบ่งปันให้แก่พระภิกษุ สามเณรที่นิมนต์มาจากวัดต่าง ๆ นั้น เส้นสลากแล้วก็จะแยกย้ายไปยึดสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในบริเวณวัดและจัดการออก สลาก การอ่านเส้นสลากดัง ๆ เมื่อมีผู้ได้ยินหรือเพื่อนบ้านใกล้ ๆ ได้ยินก็จะไปบอกเจ้าของก๋วยสลาก เมื่อพบเส้นสลากก็จะถวาย "ก๋วยสลาก" พระก็จะกล่าวอนุโมทนาให้พร และคืนเส้นสลากให้เจ้าของไป
- ลอยกระทง , ตามประทีป
- เป็นประเพณีดั้งเดิมที่สืบเนื่องกันมาแต่โบราณกาล โดยก่อนที่จะถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองใต้ (เดือนยี่เป็งเป็นของภาคเหนือ) พวกชาวบ้านจะจัดการปัดกวาดแผ้วถางบ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อยประดับด้วยธง ทิวจัดเปลี่ยนดอกไม้บนหิ้งบูชาพระจัดเทียนประทีปและเทียนไว้สำหรับจุดบูชา พระ ประตูบ้านก็จะนำต้นกล้วยต้นอ้อยทางมะพร้าวหรือไม้อื่นมาประดิษฐ์ทำเป็นซุ้ม ประตูให้สวยงาม แล้วแต่จะคิดทำเป็นที่สะดุดตาคน เมื่อประดับประดาด้วยดอกไม้เรียบร้อยแล้วก็จะหาโคมญี่ปุ่นหรือประทีปมา เตรียมไว้ เพื่อจะใช้จุดไฟให้สว่างในวันยี่เป็งตามวัดวาอารามหรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ จะจัดตกแต่งสถานที่ให้สวยงามเป็นพิเศษ ที่ซุ้มประตูของวัดจะตกแต่งด้วยดอกไม้ และโคมไฟที่สวยงาม รอบ ๆ พระเจดีย์จะจุดบูชาด้วยเทียนหรือตามประทีปไว้รอบ ๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ทุกวัดจะมีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้าพอสายหน่อยจะมีการฟังเทศน์ พระธรรมถึงผู้เทศน์จะต้องมีเคล็ดในการเทศน์การเทศน์ให้ประชาชนฟังอย่างได้ เนื้อหาทางศีลธรรมไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งชาวบ้านนิยมให้พระท่านเทศน์ในกัณฑ์มัทรี ชูชก (หรือเมืองเหนีอเรียกว่าตุ๊จก) กัณฑ์กุมาร มหาราชแห่งนครกัณฑ์ บางวัด จะจัดให้มีการเทศน์จนครบ 13 กัณฑ์ นอกจากการทำบุญฟังเทศน์แล้วจะมีการปล่อยโคมลอย ซึ่งตามประเพณีเพื่อเป็นพุทธบูชาจุฬามณีบนสวรรค์ ในตอนกลางคืนจะมีการจุดไปตามประทีปโคมไฟตามวัด และตามบ้านทั่ว ๆ ไป การลอยกระทง จะมีการลอยกระทงถึงสองวัน คือในวันยี่เป็งนั้นชาวบ้านจะนำกระทงเล็กที่จัดทำขึ้นด้วยใบตองกาบกล้วยใบ และกลีบดอกพลับพลึง ไปลอยในแม่น้ำปิง กระทงใหญ่ที่จัดทำเป็นรูปต่าง ๆ ตกแต่งอย่างสวยงามและมีการประกวดพร้อมกับขบวนแห่นั้นจะทำในวันแรม 1 ค่ำ
- งานปอยหลวง
- การทำบุญฉลองอย่างใหญ่โต เช่น เมื่อสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ โรงเรียนพระปริยัติธรรม กำแพง สิ่งปลูกสร้างภายในวัด เมืม่อสร้างเสร็จจะทำบุญอุทิศถวายทาน งานปอยหลวงจะจัดทำตั้งแต่เดือน 5, 6, 7, 8 เหนือ (ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม) งานปอยหลวงนี้ จะมีการแห่เครื่องไทยทานจากหัววัดต่าง ๆ ไปร่วม เรียกว่า "แห่ครัวทาน" ขยวนแห่ครัวทานจะมีช่างฟ้อนสาวรูปร่างสวยงาม แต่งกายแบบพื้นเมือง เช่น ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน นำหน้าครัวทาน ติดตามด้วยคณะครัวทานของแต่ละวัด ส่วนมากการแห่ครัวทานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. ตอนกลางคือน วัดที่เป็นเจ้าภาพจะจัดให้ม ลิเก ภาพยนตร์ การละเล่นต่าง ๆ บนเวที มีการเลี้ยงน้ำเย็น เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแห่ครัวทานตามแบบเมืองเหนือประกอบด้วย กลองยาว ฆ้อมแน (ปี่) ฉว่า (ฉาบ) กลองตะหลดป๊ด (กลองเล็กใช้ตีขัดจังหวัด เวลาจะได้ยิน ตุ๊ก ๆ ) เวลาบรรเลงจะได้ยินเสียงดังตึ่งโน..ต๊กตุ่งต๊กโนง.. จึงเรียกว่า "กลองตึ่งโนง" นอกจากนี้ มีกลองเทิ้ง บ่อง กลองเงี้ยว กลองสะบัดชัย ตามแต่ทางวัดจะหาได้ ฆ้องกลอง จะมีทุกวัด และยังมีกลองใหญ่เรียกว่า "กลองปูจา" ใช้ตีในเวลาที่พระลงทำวัตรเช้า เวลาที่มีการเทศน์ ก่อนวันปอย 1 วัน จะมีการเตรียมของเรียกว่า "วันดา" (วันสุกดิบ) ในวันนี้คณะศรัทธาจะนำของมารวมกันเรียกว่า "ฮอมครัว) และในวันแรกของงานปอยจะมีการทานธงแบบต่าง ๆ ซึ่งทางเหนือเรียกว่า "ตุง" และจ้อ" (ช่อ) ตุงยาวและจ้อจ๊าง (ช่อช้าง) นำมาผูกติดกับเสาไม้ไฝ่ปักไว้สองข้าวทาง ที่จะเข้าสู่วัดที่จัดให้มีการทำบุญปอยหลวงไว้เป็นสัญลักษณ์ด้วย ตอนเย็นวันเดียวกันมีการนิมนต์พระเถระอุปคุตมาไว้ที่หออุปคุต หอนี้มีแบบศาลเพียงตามีเสี่อผืนหมอนใบ น้ำต้น (คนโทใส่น้ำ) ขันดอกไม้ธูปเทียนและก้อนหิน ที่เอามาจากแม่น้ำ ซึ่งสมมุติว่าเป็นองค์อุปคุต การนิมนต์พระอุปคุตมาไว้ที่หอเพราะมีความเชื่อว่า ท่านสามารถคุ้มครองงานให้ปลอดภัยปราศจากเหตุร้าย
- ปอยน้อยหรือปอยบวชลูกแก้ว
- ลูกแก้ว ทางภาคเหนือเรียกว่า "บวชพระ" คือการอุปสมบท หากเป็นผู้มีฐานะดีและบริเวณ มีการสร้างผาม (ประจำ) ขึ้นกลางบ้านบ้างก็จะมีซอให้ผู้มา "ฮอมครัว) บางแห่งจะมีภาพยนตร์กลางแปลงให้ชมอีกด้วย
- แอ่วพระอุ้ม
- จะมีการทำบุญปอยน้อยนี้ เจ้าภาพจะต้องเตรียมอัฐบริขาร เช่น มุ้ง บาต พัด ผ้าสบง จีวร เตียงน้อน ผ้าห่ม ฯลฯจากนั้นก็จะพิมพ์ใบบอกบุญแผ่กุศล แจกจ่ายไปตามบ้านญาติสนิทมิตรสหายแทนการบอกบุญสมัยก่อนโดยการ "แอ่วผ้าอุ้ม"
- วันดา
- การจัดงานปอยบวชนี้มีสองวัน วันแรกเป็นวันดา (วันสุกดิบ) ในวันนี้เจ้าภาพจะจัดสถานที่เสร็จแล้วจะนำเครื่องอัฐบริขารของพระบวชใหม่ไป ตั้งไว้โดยจะมีผู้เฒ่าผู้แก่นั่งคอยต้อนรับอยู่และเป็นผู้ให้พรแก่ผู้ที่มา ฮอมครัว ซึ่งในวันนี้จะมีญาตพี่น้องเอาสิ่งของหรือเครื่องเงินซองมาร่วมทำบุญ ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันบวชตามพิธีสงฆ์ แต่ในปัจจุบันการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมักจะแต่งดาในตอนเช้าและทำพิธีบวช ในวันแต่งดานี้นอกจากจะเตรียมเครื่องไทยทานไว้ถวายพระที่นิมนต์มาร่วมในพิธี บวช ผู้บวชจะต้องโกนผมนุ่งขาวห่มขาว ในวันรุ่งขึ้นจะมีการแห่นาคจากบ้านไปวัดเรียกว่า "แห่ลูกแก้ว"
- การแห่ลูกแก้ว
- การแห่ลูกแก้วของทางภาคเหนือจะแต่งตัวเป็นกษัตริย์ทรงม้า มีการแห่ "ลูกแก้ว" จากบ้านไปวัด เมื่อไปถึงวัดก็จะมีการ "ฮ้องขวัญลูกแก้ว" คือมีการเรียกขวัญนาคนั้นเองโดยมีอาจารย์ที่มีลีลาการเรียกขวัญอย่างไพเราะ เพราะพริ้งกินใจเป็นทำนองเมืองเหนือ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนทำพิธีเรียกขวัญแล้วพระสงฆ์จะทำพิธีบวชเป็นสามเณรหรืออุปสมบทเป็นพระภิกษู สมปรารถนา
- ปอยเข้าสังฆ์
- เป็นการทำบุญให้กับผู้ที่ตายด้ยการคลอดบุตรโดยนิมนตร์พระมาสวดมนต์ฟัง เทศน์ที่บ้าน สิ่งของที่ถวายพระจะมีเรือนเล็กทางภาคเหนือเรียกว่า "ห่อผ้า" ภายในเรือนเล็กจะมีเสื้อผ้า เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นแก่การครองชีพของมนุษย์ ส่วนมากจะเป็นสิ่งของที่ผู้ตายเคยใช้และชอบใช้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เมื่อวัดการถวายทานแล้วมีความเชื่อว่าจะสามารถนำวิญญาณของผู้ตายพ้นจากห้วย กรรม
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอสันกำแพงอยู่ทางทิศตะวันออกของ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอสันกำแพงแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10
ตำบล 100
หมู่บ้าน ได้แก่
- สันกำแพง (San Kamphaeng) 14 หมู่บ้าน
- ทรายมูล (Sai Mun) 7 หมู่บ้าน
- ร้องวัวแดง (Rong Wua Daeng) 11 หมู่บ้าน
- บวกค้าง (Buak Khang) 13 หมู่บ้าน
- แช่ช้าง (Chae Chang) 9 หมู่บ้าน
- ออนใต้ (On Tai) 11 หมู่บ้าน
- แม่ปูคา (Mae Pu Kha) 9 หมู่บ้าน
- ห้วยทราย (Huai Sai) 8 หมู่บ้าน
- ต้นเปา (Ton Pao) 10 หมู่บ้าน
- สันกลาง (San Klang) 8 หมู่บ้าน
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอสันกำแพงประกอบด้วย
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองต้นเปา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลต้นเปาทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลสันกำแพง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลสันกำแพง ตำบลทรายมูลทั้งตำบล และบางส่วนของตำบลแช่ช้าง
- เทศบาลตำบลแม่ปูคา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ปูคาทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลบวกค้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบวกค้างทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลออนใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลออนใต้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสันกำแพง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสันกำแพง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลสันกำแพง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลร้องวัวแดง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลร้องวัวแดงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแช่ช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแช่ช้าง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลสันกำแพง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทราย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยทรายทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสันกลาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสันกลางทั้งตำบล
โรงเรียนในอำเภอสันกำแพง
โรงเรียนสพฐ.มัธยม โรงเรียนสันกำแพง (โรงเรียนประจำอำเภอสันกำแพง)
www.skpschool.net
ชาวสันกำแพงที่มีชื่อเสียง